มาแล้วๆ The mummy นำแสดงโดย ทอม ครูซ
ปี 2014 universal pictures หยิบอสูรตัว top ของค่ายอย่างแดร็กคิวล่ามาปัดฝุ่นรีบูทใหม่ พร้อมไอเดียตำนานลับที่โลกไม่รู้ ใน dracula untold หนังที่หวังจะตามเทรนด์ เปิดจักรวาลใหม่ให้แก่เราสูงสุดคลาสสิคของทางค่ายแต่โชคร้ายที่หนังล้มเหลวทั้งคำวิจารณ์และรายได้ส่งผลให้ตอนจบที่อุตส่าห์โปรให้เขามาอยู่ในยุคปัจจุบันไม่มีความหมายส่วน project ใหญ่ก็ถูกพับไปซะอย่างนั้น
ปี 2017 universal pictures ขอลองอีกสักตั้งกับดัก universe mega project ที่เดิมพันสูงยิ่งกว่ากับทัพนักแสดงแถวหน้าของวงการ ตั้งแต่ รัสเซล โครว์ Johnny Depp ฆาบิเอร์ บาร์เดม โซเฟีย โบเทลล่า ทอม ครูซ มาเป็นส่วนหนึ่งในโลกใหม่ของเหล่าทวยเทพและอสูรร้าย
โดยหมากตัวแรกที่ค่ายเดินหน้าไว้เรียบร้อยเลยก็คือ the mummy ที่เอาทอม ครูซ มารับบทเป็น Nick Walton นายทหารนักล่าสมบัติที่ดันไปคืนชีพอามาเนตเจ้าหญิงรูปงาม ร้อยเล่ห์และสุดอำมหิต ผู้สวามิภักดิ์กับเทพแห่งความตาย ก่อนจะถูกสาปให้กลายเป็นพญามาร และเมื่อเธอคืนชีพนิกและผองเพื่อนจึงต้องหาทางหยุดอามาเนตก่อนที่โลกจะตกเป็นของเธอ
และเมื่อพล็อตเรื่องเป็นแบบนี้ ทอม ครูซ มาอยู่ในหนังเรื่องนี้ the mummy ฉบับใหม่เลยกลายเป็นหนังคืนชีพยัยตัวร้ายกับนายวิ่งหนี แม้ทีมงานจะพยายามหาความแปลกใหม่มาให้กับคนดูด้วยการเปลี่ยนตัวร้ายจาก emo text ให้กลายเป็นมัมมี่สาวสุดเซ็กซี่แต่เชื่อว่าหลายคนคงตื่นเต้นกับการได้เห็น tom cruise มาต่อสู้กับอสูรแทนที่ผู้ก่อการร้ายซะมากกว่า ซึ่งการที่ได้เขาคนนี้มาอยู่ในแฟรนไชส์ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ
ข้อดีที่ชัดเจนที่สุดก็เห็นจะเป็นในส่วนของฉากแอ๊คชั่นที่ ทอม ครูซ ผู้เป็นทั้งนักแสดงนำและโปรดิวเซอร์ใหญ่หยิบเอาเหล่าไอเดียที่ไม่ได้ใช้จริงของ mission impossible มาใช้ใน the mummy พร้อม concept เล่นจริงไม่อิงสตั้นทำให้ทุกฉากแอ๊คชั่นที่แสนจะเวอร์วังดูสมจริงและตื่นตาอย่างไม่น่าเชื่อพูดง่ายๆ ก็คือโคตรมันนั่นเองล่ะครับ
ส่วนข้อเสียก็ชัดไม่แพ้กันครับเพราะเมื่อมีทอมครูซเจ้าพ่อ action ที่ใครๆ ก็ติดภาพไปทางสายบู๊เป็นเรียบร้อย หนังก็เลยไม่ให้ความสำคัญกับการปูตัวละคร nick walton เปิดมาไม่กี่นาที แกก็เข้าเรื่องเรียบร้อย ซึ่งจุดนี้ผมจะไม่ติดเลยครับถ้าก่อนหน้านี้ไม่มีหนังรีเมคฉบับปี 1999 ที่ทำเอาเราตกหลุมรักนีโอคอนเนอร์สุดๆ กับการค่อยๆ พาเรารู้จักกับตัวละครก่อนจะโยนเขาเข้าสู่ฉาก action non stop แต่ the mummy 2017 เลือกโฟกัสด้วยการพาคนดูเข้าสู่ฉากแอ๊คชั่นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งในแง่ความบันเทิงก็ถือว่าดีครับเพราะหนังไม่ปล่อยให้เราเสียเวลารอ
