หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้เห็นเธอแอบไปขโมยซีนของแบทแมนกับซุปเปอร์แมนมาแล้ว จนทำให้หลายๆ คนมองว่าทำให้เป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนังเลยก็ว่าได้ และในที่สุดปี 2017 นี้ก็ถึงเวลาโดดเดี่ยวของสาวสวยสุดแกร่งอย่างวันเดอร์วูแมนแล้ว
ดูหนังใหม่ รีวิวหนังใหม่ Wonder Woman
ต้องขอบอกเลยว่าเสน่ห์ล้นสุดๆ หลังผู้กำกับแมนๆ อย่างสไนเดอร์และเดวิดเอเยอร์ไม่สามารถพาตัวละครอย่างดีซี พิชิตใจเหล่านักวิจารณ์ได้ คราวนี้ก็เลยถึงทีของ ผู้กำกับหญิงเจ้าของหนังดีกรีออสก้าอย่าง Monster มาคว้าตำแหน่งผู้กำกับหญิงคนแรกที่ได้ทำหนังซุปเปอร์ฮีโร่ กับเรื่องราวของไดอาน่าปรินซ์เจ้าหญิงแห่งเกาะเทอมิสกีล่า ที่อยู่มาวันหนึ่งก็มีชายหนุ่มรูปงาม เครื่องบินตกเข้ามายังเกาะ เขาคนนั้นไม่ใช่ใครนอกจากสตีฟเทรเวอร์สายลับรูปหล่อผู้มีข้อมูลลับที่อาจหยุดสงครามโลกได้ ด้วยอุดมการณ์ที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กไดอาน่าปรินซ์ พาสตีฟเทรเวอร์กลับสู่กองทัพและก้าวสู่แนวหน้าของสงครามโดยไม่รู้เลยว่าพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอนั้นทำได้มากกว่าแค่หยุดสงคราม
ย้อนกลับไปใน Batman v Superman เราได้เห็นภาพของไดอาน่าปรินซ์สาวแกร่งผู้ไร้เทียมทาน แต่ใน Wonder Woman เธอคนนี้ยังเป็นเพียงแค่เด็กสาวไร้เดียงสาที่นอกจากจะไม่รู้ว่าโลกมนุษย์จริงๆ แล้วเป็นยังไงเธอยังไม่รู้ด้วยว่าพลังของเธอนั้นแรงขนาดไหน
หัวใจของวันเดอร์วูแมนจึงเป็นการเดินทางเพื่อค้นหาตัวตนที่แท้จริงของไดอาน่าบนเส้นทางสู่การเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ของเธอ
ถ้ามองภาพรวมรวมแล้วเรื่องราวของ Wonder Woman ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากหนังกำเนิดฮีโร่เรื่องอื่นๆ มากนัก แต่ด้วยความที่ตัวละครนี้ยังไม่เคยมีหนังมาก่อน ความสดใหม่เลยมีอยู่พอสมควร ผู้กำกับก็สามารถนำพลังของความโรแมนติกมาอยู่ในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ได้อย่างลงตัวและร่วมสมัย การต่อสู้ของไดอาน่าจึงเป็นมากกว่าแค่การใช้พละกำลังแต่ยังมาพร้อมกับอุดมการณ์ที่ความเท่าเทียมทางเพศที่ไม่ได้ดูยัดเยียดเหมือนหนังสิทธิสตรีที่หลายเรื่องที่เคยทำมา
อย่างไรก็ดีหนังก็ไม่ได้หม่นหมองหรือเครียดไปกับประเด็นที่ว่าขนาดนั้นนะครับ เพราะวันเดอร์วูแมนเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันและมุขตลกที่เล่นกับความคิดเรื่องสองแง่สองง่ามได้อย่างน่ารักน่าชัง
ด้านฉากแอ๊คชั่นก็ทำได้มันสมกับที่รอคอย แต่ก็ได้ใส่ความอ่อนช้อยในกระบวนท่าของไดอาน่าลงไปด้วย ทำให้แอคชั่นของ Wonder Woman ดูสวยงามและมีเหตุผลที่จะใช้สโลโมชั่นมากกว่าหนัง dc 3 เรื่องที่ผ่านมาเยอะเลยครับ
